เงินดาวน์ เป็นสิ่งที่หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินกันอยู่แล้ว โดยทั่วไปการซื้อรถยนต์จะต้องมีเงินดาวน์อยู่ที่ 25-40 เปอร์เซ็นต์ของราคารถ ทำให้ผู้ซื้อจะต้องมีเงินก้อนในการดาวน์ แต่ในปัจจุบันมีโฆษณาออกมามากมายเกี่ยวกับ การออกรถฟรีดาวน์ ซึ่งสร้างความสนใจสำหรับผู้ที่ไม่มีเงินก้อนเป็นอย่างมาก
วันนี้เราจึงอยากพาไปทำความเข้าใจกับการออกรถฟรีดาวน์ให้มากขึ้นไปดูว่า จริงๆ แล้วออกรถฟรีดาวน์คืออะไร มีค่าใช้จ่ายหรือข้อควรระวังอะไรบ้าง?
เงินดาวน์ คืออะไร?
เงินดาวน์ คือเงินสดที่ผู้ซื้อหรือผู้กู้จะต้องชำระก่อนเป็นก้อนแรก โดยเงินส่วนนี้จะไม่ถูกคิดดอกเบี้ย ซึ่งมักถูกกำหนดให้เป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาของ ก่อนจะผ่อนชำระเงินส่วนที่เหลือเป็นงวดๆ ไปจนครบตามสัญญา
ออกรถฟรีดาวน์ ก็คือการซื้อรถยนต์โดยที่ไม่ต้องมีเงินดาวน์นั่นเอง โดยจะทำการเริ่มผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะสามารถซื้อรถยนต์ได้โดยไม่มีเงินเลย เพราะการออกรถฟรีดาวน์ก็ยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ด้วย
ออกรถฟรีดาวน์ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
อย่างที่บอกไปว่า ถึงจะออกรถฟรีดาวน์ แต่ก็ต้องมีเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ด้วย เช่น
- ค่ามัดจำป้ายแดง : เมื่ออกรถใหม่จะต้องมีค่ามัดจำป้ายแดง ที่กำหนดให้ผู้ขายต้องติดให้ผู้ซื้อในระหว่างที่รถยนต์รอจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาท แต่จะได้รับเงินคืนเมื่อทำการเปลี่ยนเป็นป้ายขาว
- ค่าจดทะเบียนรถ : เป็นค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนของรถยนต์ที่ออกมาใหม่ โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับขนาดตัวรถและเครื่องยนต์ ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนจะประกอบไปด้วย
- ค่าจดทะเบียนรถใหม่ 315 บาท
- ใบคู่มือจดทะเบียนรถ 100 บาท
- ป้ายทะเบียนรถ 100 บาท
- ค่า
คุณสมบัติของผู้ที่ต้องการออกรถฟรีดาวน์
- มีรายได้มากกว่า 2 เท่าของค่างวดผ่อนชำระ เช่น ค่างวดผ่อนชำระอยู่ที่ 10,000 บาท ผู้ซื้อจะต้องมีรายได้มากกว่า 20,000 บาท
- ประวัติหนี้ดี ไม่ติดเครดิตบูโร
- มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง สามารถติดต่อได้
- มีอาชีพ หรือรายได้ที่ชัดเจน สม่ำเสมอ เช่น พนักงานบริษัท ราชการ หรือเจ้าของกิจการ
- มีเอกสารทางการเงินที่ชัดเจน
- มีอายุงานเกิน 3 เดือนขึ้นไปหรือมากกว่านั้น
ต้องบอกว่าทั้งคุณสมบัติและการพิจารณาอนุมัติ ของผู้ซื้อที่ออกรถฟรีดาวน์จะยากกว่าผู้ที่ออกรถแบบมีเงินดาวน
สิ่งที่ต้องเจอ เมื่อออกรถฟรีดาวน์
ข้อควรระวังในการออกรถฟรีดาวน์ คือคุณจะเจอปัญหาเหล่านี้ตามมา
- ยอดจัดไฟแนนซ์สูง
แน่นอน หากไม่มีเงินดาวน์ ยอดการของอนุมัติสินเชื่อก็จะสูงขึ้น เมื่อเป็นแบบนั้นทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ สูงขึ้นตามไปด้วย นี่เป็นสิ่งแรกที่คนออกรถฟรีดาวน์จะต้องเจอ
- ดอกเบี้ยสูง
เงินดาวน์เป็นส่วนที่ไม่ถูกคิดดอกเบี้ย ดังนั้นเมื่อไม่มีส่วนของเงินดาวน์ การคำนวณดอกเบี้ยก็จะมากขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยแบบฟรีดาวน์จะสูงกว่าปกติ เริ่มต้นตั้งแต่ร้อยละ 5 ขึ้นไป และหากค้างชำระค่างวดแต่ละเดือนก็จะถูกนำมาทบต่อเนื่อง
- ค่างวดผ่อนชำระสูง
ค่างวดผ่อนต้องคำนวณจากยอดจัดเต็มจำนวนและดอกเบี้ย เมื่อทั้ง 2 อย่างสูง ก็ส่งผลให้ค่างวดผ่อนชำระสูงไปด้วย เป็นการเพิ่มภาระที่ต้องจ่ายมากขึ้น ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะหาเงินดาวน์ให้มากที่สุด
จริงๆ แล้วออกรถฟรีดาวน์ก็มีทั้งข้อดี และข้อควรระวัง ใครที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถด้วยวิธีนี้ แนะนำ ให้หาข้อมูล และวางแผนให้ดีๆ ก่อน ลองดูว่าคุณมีกำลังในการผ่อนจ่ายมากน้อยแค่ไหน สามารถยอมรับดอกเบี้ยสูงๆ ได้หรือไม่ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง ตัดสินใจซื้อรถยนต์แล้วก็อย่าลืมเสริมความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยหลักประกันความเสี่ยงอย่างประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่จะช่วยให้คุณอุ่นใจในทุกๆ การขับขี่ ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบผ่อนจ่ายรายเดือนได้ที่ www.rabbitcare.com